Mouthpiece & Reed

     การเลือก mouthpiece (MP) กับ Reed (R) นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะทำให้ Clarinet ที่เราใช้อยู่นั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

     MP กับ R ถือว่าเป็นส่วนสำคัญอันดับ 1 รองจากเครื่องเลยก็ว่าได้ ถ้าเป็นนัก Clarinet มืออาชีพก็จะให้ความสำคัญกับ 2 สิ่งนี่อยู่แล้ว แต่สำหรับนักเรียนหรือคนที่เล่นทั่ว ๆไปจะจัดการกับ 2 สิ่งนี่สำคัญยังไง และที่เราใช้อยู่เหมาะสมกันหรือไม่ …..

     ถ้าเปรียบเครื่องคือร่างกาย MP และ R ก็เหมือนหัวใจที่สูบฉีดเลือดเข้าสู้ร่างกายไปยังอัวยวะต่างๆ ถ้าสูบฉีดได้ดีเสียงที่ออกมานั้นก็จะดีด้วย ฉะนั้น MP และ R ก็คือตัวที่จะนำลมเราเข้าสู่เครื่องได้ดีมากยิ่งขึ้น

      วันนี้เลยจะมาแชร์เกี่ยวกับการเลือกใช้ MP และ R คร่าว ๆ ให้เหมาะสมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ Clarinet ของเรา ไม่ว่าจะเป็น Clarinet เก่าหรือใหม่จะ เป็น ABS หรือ ไม้การเลือก MP และ R ที่เหมาะสมกันจะทำให้ Clarinet เราเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน 🙂

 

     ในปัจจุบัน MP และ R มีหลากหลายยี่ห้อ และมีรุ่นมากมาย ซึ่งแต่ละอันแต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาดและสิ่งที่ต่างกันภายใน ถึงแม้ภายนอกจะดูเหมือนกัน แต่ภายในทั้งขนาดของท่อ (Bore) หรือตัว tip opening และ Facing Length ก็จะมีขนาดที่ต่างกัน ส่วน R ก็เช่นกันปัจจุบันก็มีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่นและขนาดความหนาบาง

 

     เพราะฉะนั้นขนาดของ MP และ R ก็จะส่งผลซึ่งกันและกัน……

 

     ทีนี่เราจะรู้ได้ยังไงหละว่าอะไรเหมาะกับอะไร คำตอบนั้นง่ายมาก ด้วยปัจจุบันการเข้าถึง Internet เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ นั่นก็คือเข้าไปดู ใน Website ของแต่ละยี่ห้อของแต่ละ Brand ได้เลย

 

     เช่น MP ของ Vandoren ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลและขนาด R ที่เหมาะสมได้

https://clarinetsiam.com/product/vandoren-b40-bb-clarinet-mouthpiece/

 

     ยี่ห้ออื่น ๆ ก็สามารถเข้าไปดูได้

 

     จากประสบการณ์ที่ได้ไปสอนน้อง ๆ วงโยตามโรงเรียนมัธยม บาง รร. นั้น มี R แทบจะทุกเบอร์ เด็กบางคนใช้ R เบอร์ 3.5 – 4 ซึ่งถามว่าทำไมถึงใช้
คำตอบ 90% คือเพราะเห็นเค้าใช้กันประมาณนี้ หรือคิดว่ายิ่งเป่าเบอร์สุงได้คือยิ่งเก่ง ฮ่าๆๆ

 

     ทำให้เวลาเป่าเสียงที่ออกมานั้นค่อนข้างแข็ง เสียงออกมาไม่เต็ม เสียงไม่เพราะ ต้องใช้ลมเยอะมาก ๆ เป่าไม่ออกบ้าง เสียงต่ำออกแต่เสียงสูงเป่าไม่ได้และอื่น ๆ อีกมากมาก

 

     ซึ่งนอกจากทำให้เสียงที่ออกมานั้นไม่เต็มประสิทธิภาพของเครื่องแล้วยังทำให้ รูปปาก การตัดลิ้น (tonguing) การทำ Articulation หรือแม้จะทั้งการสร้างประโยคเพลงนั้นด้อยลงไปด้วย เรียกได้ว่าเบสิกนั้นเสียไปเลยก็ว่าได้

 

     ฉะนั้นเชื่อว่าถ้าตามวงโยต่าง ๆให้ความสำคัญกับการเลือก MP และ R ที่เหมาะสมกับ Brand ที่ตัวเองใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นMP ที่แถมมากับเครื่องหรือ อะไรก็แล้วแต่ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพของนักเรียนนั้นพัฒนาได้เร็วขึ้นไปอีกขั้น และแน่นอนการเปลี่ยน MP มาใช้ Brand ที่ทำ MP โดยเฉพาะนั้นก็จะยิ่งทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้วงบรรเลงเพราะออกมาได้เพราะขึ้นอีก

 

     ด้วยสถานการณ์แบบนี้หลาย รร. อาจจะยังไม่มีงบในการซื้อเครื่องใหม่ แต่การเปลี่ยนแค่ MP หรือใช้ R ที่เหมาะสมนั้นก็ช่วยทำให้ ประสิทธิภาพของเครื่องเดิมที่มีอยู่นั้นดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน (ถ้าเครื่องไม่พังนะ) และที่สำคัญจะประหยัดงบในการซื้อ R ไปได้เยอะไม่ต้องไล่ซื้อทุกเบอร์ตั้งแต่เบอร์ 2 ยันเบอร์ 4

 

     ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังยังมีรายละเอียดอีกเยอะ ขึ้นอยู่กับ สรีระ รูปปาก พลังของแต่ละคนด้วยว่า เหมาะสมกับ MP หรือ R รุ่นไหน เครื่องยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร ชอบเสียงแบบไหนซึ้งอันนี้ก็จะแตกต่างกันไปในรสนิยม และในระดับนัก Clarinet อาชีพ มากกว่า

 

     แต่สำหรับนักเรียนทั่ว ๆไปในระดับประถมหรือมัธยมผมว่าคิดว่าคร่าว ๆ แค่นี้ก้น่าจะเพียงพอ ถ้าสนใจก็สอบถามได้เลยครับหรือสอบถามนัก Clarinet หรือครูใกล้บ้านได้ครับ